มาร์ติงเกล บาคาร่า

กลยุทธ์แทงทบ มาร์ติงเกล ใช้ได้จริงไหมในการเล่นบาคาร่า

การเดิมพันแบบ มาร์ติงเกล (Martingale) เป็นหนึ่งในระบบการวางเดิมพันที่เก่าแก่และเป็นที่รู้จักกันดี โดยเฉพาะในกลุ่มผู้เล่นเกมคาสิโนออนไลน์อย่าง บาคาร่า หลักการพื้นฐานของมันเรียบง่ายมาก คือการเพิ่มเงินเดิมพันหลังจากที่เสีย และลดกลับไปเท่าเดิมเมื่อชนะ ระบบนี้ถูกคิดค้นขึ้นในประเทศฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 18 และได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วเพราะฟังดูเหมือนเป็นวิธีการที่ไม่สามารถแพ้ได้หากทำตามอย่างเคร่งครัด

หลักการของ มาร์ติงเกล คือ การใช้ประโยชน์จากแนวคิดที่ว่า ในเกมที่มีโอกาสเกือบ 50/50 เช่น การออกหัวก้อย หรือในบาคาร่าคือฝั่งผู้เล่น (Player) หรือเจ้ามือ (Banker) เหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งจะต้องเกิดขึ้นในที่สุด ไม่สามารถออกหน้าเดิมซ้ำๆ ไปตลอดกาลได้ ดังนั้น เมื่อเสียเดิมพัน กลยุทธ์นี้จึงให้เราเพิ่มเงินเป็นสองเท่าเพื่อที่ว่าเมื่อชนะครั้งต่อไปจะได้เงินที่เสียไปทั้งหมดคืน และยังได้กำไรกลับมาเท่ากับเงินเดิมพันก้อนแรกที่เราเริ่มเล่น

สารบัญ

มาร์ติงเกล ในบาคาร่า ทำงานอย่างไร?

เมื่อนำมาใช้กับการเล่นบาคาร่า ผู้เล่นส่วนใหญ่มักจะเลือกแทงฝั่งใดฝั่งหนึ่งที่ให้อัตราจ่ายใกล้เคียง 1:1 เช่น ฝั่งผู้เล่น (Player) ซึ่งโดยทั่วไปให้ผลตอบแทน 1:1 หรือฝั่งเจ้ามือ (Banker) ซึ่งโดยทั่วไปให้ผลตอบแทน 1:0.95 หลังจากหักค่าน้ำ กลยุทธ์นี้ไม่ได้สนใจว่าคุณจะเลือกแทงฝั่งไหน ขอแค่เลือกเพียงฝั่งเดียวและใช้หลักการทบเงินเมื่อเสีย

วิธีใช้กลยุทธ์มาร์ติงเกล ในบาคาร่าจะเริ่มจากการกำหนด “หน่วย” ของเงินเดิมพันเริ่มต้นที่คุณยอมรับได้ เช่น กำหนดให้ 1 หน่วย เท่ากับ 100 บาท ในตาแรก คุณวางเดิมพันไป 1 หน่วยที่ฝั่งที่คุณเลือก ถ้าผลออกมาว่าคุณเสียเงินเดิมพัน 100 บาทนั้น กลยุทธ์กำหนดให้คุณต้องเพิ่มเงินเดิมพันเป็นสองเท่าในตาต่อไป เพื่อให้มั่นใจว่าเมื่อชนะครั้งต่อไป คุณจะได้เงินทุนที่เสียไปกลับคืนมา

วิธีใช้กลยุทธ์ Martingale แบบทีละขั้นตอน

  • Step 1 เริ่มต้น : คุณกำหนดเงินเดิมพันเริ่มต้นที่เรียกว่า ‘หน่วย’ (Unit) เช่น กำหนดให้ 1 หน่วย เท่ากับ 100 บาท ในตาแรก คุณวางเดิมพันไป 1 หน่วย (100 บาท) ที่ฝั่ง Player
  • Step 2 เสียครั้งแรก : หากตาแรกเสียเงิน 100 บาท ตามกลยุทธ์ Martingale คุณจะต้องเพิ่มเงินเดิมพันเป็น 2 เท่าในตาต่อไป คือ 200 บาท (หรือ 2 หน่วย) ที่ฝั่ง Player เดิม เพื่อพยายามชิงทุน 100 บาทที่เสียไปกลับคืนมา
  • Step 3 เสียครั้งที่สอง : ถ้าตาที่สองยังคงเสียอีก 200 บาท ตอนนี้คุณเสียเงินสะสมไปแล้ว 100 + 200 = 300 บาท กลยุทธ์สั่งให้คุณทบเงินอีกครั้งเป็น 2 เท่าของตาที่แล้ว คือ 400 บาท (4 หน่วย) ที่ฝั่ง Player
  • Step 4 เสียครั้งที่สาม : หากโชคร้ายเสียติดต่อกันเป็นตาที่สาม ที่ 400 บาท ตอนนี้คุณเสียเงินสะสมไปแล้ว 100 + 200 + 400 = 700 บาท คุณจะต้องเพิ่มเงินเดิมพันในตาต่อไปเป็น 2 เท่าของ 400 บาท คือ 800 บาท (8 หน่วย)
  • Step 5 ชนะในที่สุด : สมมติว่าคุณเสียมา 3 ตาติด และในตาที่ 4 คุณแทง 800 บาท แล้วไพ่ออก Player ชนะ เงินที่คุณได้จากการชนะ 800 บาทนี้ (ไม่รวมทุน) จะนำไปหักลบกับยอดที่เสียสะสม 700 บาท ทำให้คุณได้ทุนคืนทั้งหมด และยังคงเหลือเป็นกำไร 100 บาท (เท่ากับเงินเดิมพันเริ่มต้น 1 หน่วย) ที่เป็นเป้าหมายของกลยุทธ์
  • Step 6 รีเซ็ต : ทันทีที่คุณชนะและได้กำไร 1 หน่วยแล้ว ตาต่อไปคุณต้อง ‘รีเซ็ต’ กลับไปเริ่มวางเดิมพันที่เงินเดิมพันเริ่มต้นใหม่ คือ 100 บาท (1 หน่วย) เพื่อเริ่มรอบใหม่ของ Martingale วนลูปไปเรื่อยๆ

สูตรมาร์ติงเกล กับบาคาร่า ความจริงในทางปฏิบัติ

ในทางทฤษฎี คณิตศาสตร์บอกว่า หากคุณมีเงินทุนที่ ไม่จำกัด และโต๊ะบาคาร่าที่คุณเล่น ไม่มีการกำหนดเพดานเดิมพันสูงสุด คุณจะไม่มีทางขาดทุนในระยะยาว เพราะไม่ว่าคุณจะเสียติดต่อกันกี่ครั้ง ในที่สุดเมื่อคุณชนะเพียงครั้งเดียว คุณจะได้เงินที่เสียไปคืนทั้งหมด พร้อมกำไรเท่ากับเงินเดิมพันเริ่มต้นเสมอ เนื่องจากคุณสามารถทบเงินไปได้เรื่อยๆ โดยไม่มีข้อจำกัดใดๆ

แต่ในความเป็นจริง โลกของการพนันคาสิโน ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ไม่เป็นไปตามทฤษฎีสมบูรณ์แบบนั้น สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นมัน เป็นไปไม่ได้จริง เพราะผู้เล่นทุกคนมีข้อจำกัดด้านเงินทุนของตัวเอง และที่สำคัญที่สุด คาสิโนทุกแห่งมีการตั้ง “เพดานเดิมพันสูงสุด” ต่อตาไว้เสมอ ปัจจัยเหล่านี้เองที่เป็นตัวทำลายกลยุทธ์ Martingale อย่างสิ้นเชิง ทำให้มัน “ฟังดูดีในทฤษฎี” แต่ “อันตรายในการปฏิบัติจริง” อย่างยิ่ง

ข้อดีและข้อเสียการเดิมพันแบบมาร์ติงเกล

เพื่อให้เห็นภาพรวม เรามาดูข้อดีและข้อเสียของกลยุทธ์นี้กันชัดๆ

ข้อดี

  • เข้าใจง่ายมาก หลักการแค่ ‘เสียแล้วเพิ่มเงินเดิมพันเป็น 2 เท่า ชนะแล้วกลับไปเริ่มต้นใหม่’ ทำให้ใครๆ ก็เรียนรู้และนำไปใช้ได้ทันที ไม่ต้องศึกษาหรือคำนวณที่ซับซ้อนยุ่งยาก
  • ดูเหมือนจะชนะบ่อยในระยะสั้น ถ้าคุณโชคดีไม่เจอช่วงที่ไพ่ออกติดกันเป็นแพทเทิร์นยาวๆ ที่ทำให้เสียซ้ำๆ (Losing Streak) คุณจะมีโอกาสชนะในรอบของ Martingale นั้นๆ ได้ค่อนข้างบ่อย และในทุกครั้งที่คุณชนะ คุณจะได้กำไรเล็กน้อยเท่ากับเงินเดิมพันเริ่มต้นของคุณ ซึ่งทำให้รู้สึกว่าได้กำไรเรื่อยๆ
  • ให้ความรู้สึกว่ากู้คืนทุนที่เสียไปได้ เมื่อคุณเสียติดกัน การที่ต้องเพิ่มเงินเดิมพันเรื่อยๆ อาจสร้างความกดดันและความกังวล แต่เมื่อถึงตาที่คุณชนะ เงินที่คุณได้จากการชนะนั้น (ซึ่งเป็นจำนวนมากเพราะถูกทบมา) จะนำไปหักลบกับยอดที่เสียสะสมทั้งหมด ทำให้คุณได้เงินทุนคืนและยังมีกำไรเล็กน้อย มันให้ความรู้สึก “เอาคืน” ได้ ทำให้ผู้เล่นหลายคนชอบความรู้สึกนี้

ข้อเสีย

  • ต้องใช้เงินทุนมหาศาลเพื่อรองรับการเสียติดต่อกัน นี่คือข้อเสียที่ร้ายแรงที่สุด และเป็นตัวทำลายกลยุทธ์นี้ในทางปฏิบัติ เงินเดิมพันที่คุณต้องทบจะพุ่งสูงขึ้นอย่างน่าตกใจในแต่ละรอบที่เสียซ้ำๆ ซึ่งน้อยคนนักที่จะมีเงินทุนมากพอรองรับได้
  • ชนกับเพดานเดิมพันสูงสุดของโต๊ะอย่างรวดเร็ว คาสิโนทุกแห่งกำหนดจำนวนเงินที่คุณวางเดิมพันได้สูงสุดต่อตาไว้ การใช้ Martingale จะทำให้คุณต้องเพิ่มเงินเดิมพันจนถึงขีดจำกัดนี้อย่างรวดเร็ว ทำให้คุณไปต่อไม่ได้ตามแผนที่วางไว้
  • การขาดทุนครั้งใหญ่ในที่สุด เมื่อคุณไปถึงจุดที่ไม่สามารถวางเดิมพันตามกลยุทธ์ต่อได้ ไม่ว่าเพราะเงินทุนหมด หรือชนเพดานเดิมพันของโต๊ะ คุณจะสูญเสียเงินก้อนใหญ่ที่สะสมมาทั้งหมดในทันที ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว เงินที่เสียในครั้งเดียวนี้มักจะมากกว่ากำไรเล็กๆ น้อยๆ ที่เคยได้จากการชนะในรอบก่อนๆ อย่างมหาศาล

ความเสี่ยงและข้อจำกัดที่ต้องรู้

ความเสี่ยงหลักที่ทำให้ กลยุทธ์มาร์ติงเกล ไม่ใช่สูตรสำเร็จในการทำเงินในบาคาร่า คือการเผชิญหน้ากับข้อจำกัดทางปฏิบัติ โดยเฉพาะเรื่อง “เงินทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว” ซึ่งเราได้แสดงตัวเลขไว้ในตารางนี้

ตารางแสดงการเพิ่มขึ้นของเงินเดิมพันและยอดเสียสะสมเมื่อเสียติดต่อกัน (เริ่มต้นที่ 100 บาท)

ลำดับการเสีย (ครั้งที่)

เงินเดิมพันในตานี้ (บาท)

เงินที่เสียสะสมทั้งหมด (บาท) (เมื่อจบตานั้น)

เริ่มต้น (ชนะ/เริ่มใหม่)

100

0

เสียครั้งที่ 1

200

100

เสียครั้งที่ 2

400

300

เสียครั้งที่ 3

800

700

เสียครั้งที่ 4

1,600

1,500

เสียครั้งที่ 5

3,200

3,100

เสียครั้งที่ 6

6,400

6,300

เสียครั้งที่ 7

12,800

12,700

เสียครั้งที่ 8

25,600

25,500

เสียครั้งที่ 9

51,200

51,100

เสียครั้งที่ 10

102,400

102,300

ตารางนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า เงินเดิมพันที่คุณต้องวาง และยอดเงินที่เสียสะสม จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแบบทวีคูณ เมื่อคุณเสียติดต่อกัน เพียงแค่เสีย 10 ครั้ง เงินเดิมพันในตาถัดไปจะพุ่งไปกว่า 100,000 บาท และยอดเสียสะสมก็สูงถึง 102,300 บาท ซึ่งเป็นเงินทุนจำนวนมหาศาลที่น้อยคนนักจะมีสำรองไว้รองรับสถานการณ์เช่นนี้ได้ ตารางนี้จึงเป็นเครื่องเตือนใจถึงความเสี่ยงด้านเงินทุนที่เป็นข้อจำกัดใหญ่ที่สุดของ Martingale

นอกจากความต้องการเงินทุนที่สูงลิบลิ่วแล้ว การชนเพดานเดิมพันสูงสุดของโต๊ะ (Table Limit) ก็เป็นอีกปัญหาใหญ่ คาสิโนตั้งเพดานนี้ไว้เพื่อป้องกันระบบเดิมพันแบบทบเงินโดยเฉพาะ โต๊ะบาคาร่าทั่วไปอาจมีเพดานตั้งแต่หลักหมื่นบาทไปจนถึงหลักแสนบาท หากคุณใช้ Martingale โดยเริ่มจากเงินน้อยๆ คุณจะถึงจุดที่ต้องวางเดิมพันสูงกว่าเพดานของโต๊ะอย่างรวดเร็ว ดังตัวอย่างในตาราง หากโต๊ะมีเพดาน 100,000 บาท การเสีย 10 ครั้งติด จะทำให้คุณวางเดิมพัน 102,400 บาทในตาที่ 11 ไม่ได้ ทำให้กลยุทธ์พังลงทันทีและคุณต้องรับการขาดทุนก้อนใหญ่ที่สะสมมา

โอกาสของการเสียติดต่อกัน (Losing Streaks) ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้จริง แม้โอกาสที่ไพ่ออกฝั่งเดิมซ้ำๆ ติดกันยาวมากๆ จะน้อยลงเรื่อยๆ ในแต่ละครั้ง แต่ในการเล่นหลายร้อยหรือหลายพันตาในระยะยาว การเจอเหตุการณ์เสียติดต่อกัน 7, 8, 10 ครั้ง หรือมากกว่านั้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ และเมื่อมันเกิดขึ้น มันจะทำให้เงินทุนของคุณหมดลง หรือทำให้คุณชนกับเพดานเดิมพัน ก่อนที่คุณจะได้มีโอกาสชนะในรอบนั้นๆ เพื่อเอาทุนคืน

Martingale ไม่ใช่ กลยุทธ์ที่รับประกันว่าจะชนะในระยะยาว ในเกมบาคาร่า

จากความเสี่ยงเรื่องเงินทุนที่ต้องใช้จำนวนมหาศาล และข้อจำกัดเรื่องเพดานเดิมพันของโต๊ะคาสิโน ทำให้เว็บไซต์ของเรา ยืนยันว่า กลยุทธ์มาร์ติงเกล ไม่ใช่ กลยุทธ์ที่รับประกันว่าจะชนะในระยะยาวในเกมอย่างบาคาร่า หรือเกมคาสิโนอื่นๆ ที่มีอัตราจ่ายใกล้เคียง 1:1

มันอาจใช้ได้ผลในระยะสั้นๆ หากคุณโชคดีไม่เจอช่วงที่เสียติดกันยาวๆ แต่ในท้ายที่สุด นักพนันส่วนใหญ่ที่ใช้ Martingale มักจะจบลงด้วยการเสียเงินก้อนใหญ่เมื่อเจอ Limit ของโต๊ะ หรือเงินทุนหมดก่อนที่จะชนะได้ครบตามรอบ การชนะเล็กๆ น้อยๆ หลายๆ ครั้งที่เคยทำได้ มักจะไม่คุ้มค่ากับความเสี่ยงที่จะขาดทุนครั้งใหญ่เพียงครั้งเดียว

เราจึงอยากให้คุณทำความเข้าใจความเสี่ยงและข้อจำกัดเหล่านี้ให้ดี ก่อนตัดสินใจนำกลยุทธ์ Martingale ไปใช้ในการเล่นบาคาร่า โปรดจำไว้ว่า Martingale เป็นเพียง ‘ระบบการจัดการเงินทุน’ รูปแบบหนึ่งที่เน้นการไล่ตามทุนที่เสียไป ไม่ใช่ ‘สูตรบาคาร่า’ หรือ ‘เคล็ดลับ’ ที่รับประกันผลกำไร 100% การบริหารเงินทุนอย่างรอบคอบ การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน และการเล่นอย่างมีสติ ยอมรับว่าการพนันมีความเสี่ยงที่จะสูญเสีย เป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่คุณควรยึดถือ