ทำไม Banker มีโอกาสชนะมากกว่า Player ในเกม บาคาร่า
ในเกมบาคาร่ามักจะมีข้อสังเกตหนึ่งที่ผู้เล่นพูดถึงบ่อยๆ คือทำไมดูเหมือนฝั่ง Banker (เจ้ามือ) ถึงมีแนวโน้มที่จะชนะเดิมพันบ่อยกว่าฝั่ง Player (ผู้เล่น) เล็กน้อย ความรู้สึกนี้ไม่ใช่แค่ความบังเอิญหรือการสังเกตส่วนตัว แต่เป็นความจริงที่มีพื้นฐานมาจากหลักการและกติกาเฉพาะของตัวเกม บาคาร่าเว็บตรง ซึ่งแตกต่างจากเกมไพ่อื่นๆ โดยเรื่องที่ว่า ทำไม Banker มีโอกาสชนะมากกว่า Player เล็กน้อยนั้น เป็นผลมาจากการออกแบบกฎของเกมตั้งแต่แรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของวิธีการจั่วไพ่ใบที่สามสำหรับแต่ละฝ่าย กติกาเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่สุ่มขึ้นมา แต่ถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจนและมีผลโดยตรงต่อความน่าจะเป็นของผลลัพธ์ ทำให้เมื่อเล่นไพ่ไปจำนวนหลายๆ ตา Banker จะมีความได้เปรียบทางสถิติที่สะสมขึ้นมาได้มากกว่า Player อย่างสม่ำเสมอ
ค่าต๋ง คอมมิชชั่น ของ Banker มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างไร?
ด้วยเหตุผลที่ว่า Banker มีโอกาสชนะสูงกว่า Player เล็กน้อยตามหลักคณิตศาสตร์ เว็บคาสิโน ของเรา จึงต้องมีการเก็บ “ค่าต๋ง” หรือ ค่าตอบแทน “Commission” จากการเดิมพันฝั่ง Banker ที่ชนะ ค่าต๋งมาตรฐานทั่วไปจะอยู่ที่ 5% ของเงินรางวัลที่ได้ นั่นหมายความว่า หากคุณเดิมพัน Banker 100 บาทแล้วชนะ คุณจะได้รับเงินรางวัล 100 บาท แต่จะต้องจ่ายค่าต๋ง 5 บาท ทำให้ได้เงินสุทธิ 95 บาท
การเก็บค่าต๋งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อคาสิโน เพราะเป็นการนำความได้เปรียบทางสถิติของ Banker กลับมาสู่คาสิโน หากไม่มีการเก็บค่าต๋ง การเดิมพันฝั่ง Banker จะกลายเป็นเดิมพันที่ผู้เล่นได้เปรียบคาสิโนในระยะยาว (เพราะมีโอกาสชนะบ่อยกว่า) ดังนั้น ค่าต๋งจึงเป็นกลไกที่ช่วยให้คาสิโนยังคงมี House Edge หรือความได้เปรียบอยู่ เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้ แม้ว่าฝั่ง Banker โดยตัวของมันเองจะมีโอกาสชนะสูงกว่า Player ก็ตาม
กติกาการจั่วไพ่ที่แตกต่างกัน
ความแตกต่างที่สำคัญที่สุดและเป็นต้นกำเนิดของความได้เปรียบของ Banker อยู่ที่ กฎเกณฑ์ในการจั่วไพ่ใบที่สาม ทั้ง Player และ Banker จะได้รับไพ่เริ่มต้นคนละสองใบเท่ากัน แต่หลังจากนั้น หากจำเป็นต้องจั่วไพ่ใบที่สาม กฎสำหรับ Player นั้นค่อนข้างตรงไปตรงมาและถูกกำหนดไว้ก่อน เช่น Player จะต้องจั่วหากมีแต้มรวม 0-5 และอยู่โดยไม่ต้องจั่วหากมีแต้มรวม 6 หรือ 7
ในทางกลับกัน กฎการจั่วไพ่ใบที่สามของ Banker นั้นมีความซับซ้อนมากกว่ามาก เพราะไม่ได้ขึ้นอยู่กับแต้มของ Banker เพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องพิจารณาถึงแต้มของไพ่สองใบแรกของ Banker เอง และ ที่สำคัญที่สุดคือต้องดูว่า Player ได้จั่วไพ่ใบที่สามหรือไม่ และไพ่ใบที่สามนั้นเป็นไพ่อะไร การตัดสินใจจั่วหรือไม่จั่วของ Banker จึงเป็นไปตามตารางกฎที่ตายตัว ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อให้เกิดความได้เปรียบในระยะยาวเมื่อเล่นไปหลายๆ ตา
ไพ่ใบที่สามของ ผู้เล่น มีผลต่อ เจ้ามือ
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว ไพ่ใบที่สามที่ Player จั่วได้ (ถ้าหาก Player ได้จั่ว) จะเป็นตัวกำหนดการตัดสินใจของ Banker อย่างชัดเจนตามกฎที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ตัวอย่างเช่น หาก Player ไม่จั่วไพ่ใบที่สาม (เพราะแต้มสูง) Banker จะจั่วเพิ่มหรือไม่ก็ดูจากแต้มของตัวเอง หาก Banker มีแต้มรวม 0-5 ก็มักจะต้องจั่ว แต่ถ้ามีแต้ม 6 หรือ 7 ก็จะอยู่
แต่ถ้า Player จั่วไพ่ใบที่สาม แต้มของไพ่ใบที่สามนั้นจะไป “บอก” ให้ Banker ทำตามกฎเฉพาะ ยกตัวอย่างง่ายๆ หาก Player จั่วได้ไพ่ที่มีค่าต่ำ Banker อาจจะต้องจั่วตามในขณะที่ถ้า Player จั่วได้ไพ่ที่มีค่าสูง Banker อาจจะไม่ต้องจั่ว กฎเหล่านี้ถูกคำนวณมาแล้วเพื่อให้ Banker ได้เปรียบในสถานการณ์ต่างๆ ทำให้การจั่วหรือไม่จั่วของ Banker มีแนวโน้มที่จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ชนะได้บ่อยกว่า
การคำนวณตามหลักสถิติ
เมื่อนำเอากติกาการจั่วไพ่ที่แตกต่างกันนี้มาวิเคราะห์ทางคณิตศาสตร์ โดยการจำลองผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ทั้งหมดจากการแจกไพ่ เราจะเห็นตัวเลขที่เป็นโอกาสชนะของแต่ละฝ่าย การคำนวณทางสถิติที่แม่นยำแสดงให้เห็นว่า โอกาสที่ฝั่ง Banker จะชนะนั้นสูงกว่าฝั่ง Player จริงๆ จากการคำนวณทั่วๆ ไป เมื่อรวมผลเสมอเข้าไปด้วย เราสามารถสรุปโอกาสในการชนะของแต่ละฝั่งได้เป็นตัวเลขที่ชัดเจน ดังตารางนี้:
ผลลัพธ์ (Outcome) | โอกาสชนะ (รวมเสมอ) | โอกาสชนะ (ไม่รวมเสมอ) |
Banker | ประมาณ 45.8% | ประมาณ 50.68% |
Player | ประมาณ 44.6% | ประมาณ 49.32% |
Tie (เดิมพันเสมอ) | ประมาณ 9.6% | – (ไม่เกี่ยวข้อง) |
ตารางนี้แสดงให้เห็นว่า เมื่อพิจารณาจากกฎและวิธีการจั่วไพ่ทั้งหมด โอกาสที่ฝั่ง Banker จะชนะนั้นสูงกว่าฝั่ง Player อยู่เล็กน้อยอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราดูที่ โอกาสชนะในกรณีที่ไม่เกิดผลเสมอ (คอลัมน์ขวา) จะเห็นได้ชัดเจนว่า Banker มีโอกาสชนะมากกว่า Player อยู่ประมาณ 1.36% ตัวเลขเล็กๆ นี้คือความได้เปรียบทางสถิติที่เป็นหัวใจสำคัญว่าทำไม Banker ถึงมีแนวโน้มที่จะชนะบ่อยกว่าในระยะยาวจากการเล่นหลายๆ ครั้ง
การจั่วไพ่ใบที่สาม คือเคล็ดลับที่ทำให้ เจ้ามือ ชนะมากกว่า
โดยสรุปแล้ว เหตุผลหลักที่ทำให้ฝั่ง Banker ในเกมบาคาร่ามีโอกาสชนะสูงกว่าฝั่ง Player เล็กน้อย ไม่ได้มาจากโชคช่วยเพียงอย่างเดียว แต่มาจาก กฎกติกาการจั่วไพ่ใบที่สามที่ถูกกำหนดมาอย่างเฉพาะเจาะจงและแตกต่างกัน โดยที่การตัดสินใจจั่วของ Banker จะพิจารณาจากไพ่ของ Player ด้วย
กฎเหล่านี้ผ่านการคำนวณทางสถิติมาแล้ว และแสดงให้เห็นว่า ในระยะยาว Banker มีเปอร์เซ็นต์ชนะที่สูงกว่า Player อยู่ประมาณ 1.36% ของการเดิมพันทั้งหมด (ไม่นับเสมอ) ด้วยเหตุนี้เอง จึงจำเป็นต้องมีการเก็บ ค่าต๋ง (Commission) จากการเดิมพัน Banker ที่ชนะ เพื่อปรับความได้เปรียบทางสถิตินี้ให้สมดุลและทำให้คาสิโนสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ นี่คือกลไกเบื้องหลังที่ทำให้ Banker เป็นตัวเลือกที่มีโอกาสชนะบ่อยกว่าในเกมบาคาร่า
